AI สถานีถัดไป >> Deep Learning
- Carbonoi
- 25 ก.ย. 2567
- ยาว 1 นาที
Machine Learning >>> Deep Learning
จากโพสต์ก่อนหน้า AI มีความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองจากข้อมูลที่ป้อนให้ หรือที่เรียกว่า Machine Learning (ML) แต่เรื่องยังไม่จบ ในทุกวินาทีขณะนี้ AI กำลังฉลาดลึกล้ำขึ้นไปอีก
ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล พลังในการคำนวณของเครื่องคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น และได้พลังประชากรโลกช่วยกันใส่ข้อมูลดิจิทัลมหาศาลเข้าไปในโลกอินเตอร์เน็ต
นักวิทยาศาสตร์ได้สร้างกระบวนการเรียนรู้ของคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า #DeepLearning (DL) ประกอบไปด้วยหน่วยคำนวณหลายล้านหน่วย ทำให้ AI เรียนรู้จากตัวอย่างข้อมูลมหึมาได้ในเวลาอันรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
AI ถูกนำมาประยุกต์ใช้แทบทุกวงการ เช่น กล้องที่รู้จักหน้าคน รถขับด้วยตนเอง ระบบ x-ray คัดกรองวัณโรค ฯลฯ รวมถึงการต่อสู้กับ #ปัญหาโลกร้อน ที่ช่วยเข้าถึงข้อมูลอันไกลโพ้นสุดขอบฟ้า มาดูตัวอย่างการใช้งานจริงในปัจจุบันกัน
- วิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม คาดการณ์ปริมาณและอัตราการละลายของภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งส่งผลต่อระดับน้ำในมหาสมุทรได้
- ติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพป่าไม้แบบเรียลไทม์ ทั้งการตัดไม้ทำลายป่า หรือการประเมินปริมาณคาร์บอนที่ถูกกักเก็บในป่าไม้
- เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดของเสียในภาคอุตสาหกรรม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นตัวร้ายจากน้ำมือมนุษย์ที่ทำให้โลกร้อน
- ใช้ AI ช่วยจำแนกและคัดแยกขยะอัตโนมัติ เช่น ที่อังกฤษ ใช้ AI แยกขยะที่ปลายทางได้มากกว่า 50 ประเภท จากที่ครัวเรือนแยกขยะได้เพียง 1-5 ประเภท ทำให้จัดการขยะรีไซเคิลได้ดีขึ้น
- UN ใช้ AI เป็นเครื่องมือพลิกเศรษฐกิจในแอฟริกา ใช้ทำนายสภาพอากาศแปรปรวน เพื่อวางแผนรับมือกับความเสี่ยงทางการเกษตรและสาธารณสุข
#AIforClimateChange กำลังมาแรงและมีเรื่องราวน่าสนใจอีกมาก จะทยอยเอามาเล่าให้ฟังกันต่อ ใครอยากรู้ด้านไหนเพิ่มเติม คอมเมนท์มาบอกกันได้นะคะ
—--
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจาก อ.ฝน
“ในไทยมีนักวิจัยด้าน AI ที่ทำ DL เยอะมากค่ะ กระจายอยู่ทั้งในมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน เราทำ DL ใช้แก้ปัญหาโลคอลหรือภาษาของเราเอง เช่น ตัวช่วยอ่านข้อความแบบ OCR หรือแปลงข้อความ Voice-to-Text ทำได้ดีกว่าของฝรั่งทำ”
Comments